Posted on

เคล็ดลับ! วิธีการไดร์ผมที่ช่วยไม่ให้ผมแห้งเสีย ชี้ฟู

ผมเสีย! จากการทำผมไม่ว่าจะ ไดร์ผม ยืด หรือดัดผมอยู่ใช่ไหม!
          เส้นผมของคุณถูกทำร้ายซ้ำ ๆ ทั้งจากไดร์เป่าผม เครื่องม้วนผม การเสียดสี หรือแม้กระทั่งรังสียูวีจากแสงแดด สิ่งเหล่านี้ทำให้เกล็ดผมเปิดออก และ CMC (Cell membrane complex) ที่ทำหน้ายึดเกาะเนื้อผมเข้าด้วยกันกระจายตัวออกไป ส่งผลให้สารอาหารที่อยู่ภายในเส้นผมหลุดออกได้ง่ายขึ้น  ผมของคุณจึงแห้งเสีย ขาดร่วง และสูญเสียความเงางาม

วันนี้เราจะมาบอกเคล็ดลับการใช้ไดร์ผมจัดทรงผม แบบไม่ทำร้ายเส้นผม ที่จะลดปัญหาผมแห้งเสียแตกปลาย ให้ผมของคุณยังสวย และสุขภาพดี มีวิธีดังนี้

1. เช็ดผมให้แห้งหมาด ๆ และ เป่าผมด้วยลมเย็นเล็กน้อย

เส้นผมของเราของเราจะอ่อนแอและเปราะบางอยู่มากที่สุดหลังจากการสระผม ดังนั้นเราจึงไม่ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมแรง ๆ หรือขยี้ผมเพื่อให้ผมแห้งไวขึ้น  แต่ให้ใช้ผ้าขนหนูซับเส้นผมเบา ๆ ให้พอหมาด แล้วใช้ลมเย็นเป่าผมเล็กน้อย

2.ควรไดร์ผมในแนวดิ่ง

              ควรเป่าผมในแนวดิ่งจากด้านบนลงด้านล่าง ตั้งแต่โคนผมลงไปถึงปลายผม แบ่งผมออกเป็นช่อ ๆ แล้วใช้ลมร้อนเป่าผมจากบริเวณโคนสู่ปลาย อย่าให้ลมอยู่ในทิศทางที่ตั้งฉากกับหนังศีรษะ ให้เป่าลมในทิศที่ขนานกันเท่านั้นจะทำให้เส้นผมดูเรียบตรง เงางาม และดูเป็นธรรมชาติมากกว่าการจ่อไดร์ทิ้งไว้ที่จุดใดจุดหนึ่ง ทั้งนี้ควรเว้นระยะระหว่างไดร์เป่าผมกับศีรษะให้พอดีประมาณ 15 เซนติเมตร ไม่ควรจ่อไดร์ใกล้ศีรษะเกินไป

3.ใช้ลมอ่อน ๆ เป่าไปทั่วศีรษะ และจบที่ลมเย็น

             ค่อย ๆ ใช้ลมอ่อน ๆ เป่าให้ทั่วศีรษะ และไม่หยุดอยู่ที่จุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียว เมื่อไดร์ผมด้วยลมร้อนจนแห้งดีแล้ว ให้เปลี่ยนเป็นใช้ลมเย็น เพื่อให้ผมอยู่ทรงและเงางาม หากว่าใครไม่ได้ใส่เซรั่มบำรุงผมในช่วงผมหมาด ก็สามารถใส่ในช่วงผมแห้งหลังจากการเป่าผมเสร็จได้เช่นเดียวกัน

เคล็ดลับในการเป่าลมให้แห้งไวยิ่งขึ้น คือ หลังจากซับน้ำด้วยผ้าขนหนูจนผมหมาดแล้ว ให้นำผ้าขนหนูอีกผืนมาคลุมผมเอาไว้ แล้วเป่าผมผ่านผ้าขนหนู ผ้าขนหนูจะช่วยซับน้ำ และไม่ทำให้ผมของเราแห้งเสียอีกด้วย

ไดร์จัดแต่งทรงผม

4. ใส่เซรั่มบำรุงผมเมื่อผมหมาดดีแล้ว หรือตอนที่เป่าผมเสร็จแล้ว

           เมื่อเราซับผมจนผมแห้งหมาด ๆ ให้เราบำรุงผมด้วยเซรั่ม โดยหยดเซรั่มประมาณ 2-3 ปั๊ม หรือตามปริมาณความยาวของเส้นผม  โดยให้ใส่เซรั่มบริเวณปลายผม เพื่อคืนความชุ่มชื้นให้แก่ผม หลังการสระผม

           เซรั่มที่ขอแนะนำสำหรับคนที่เซตผมโดยใช้ความร้อนเป็นประจำ คือ SARAKAMI มีสารสกัด CMC ที่จะช่วยซ่อมแซมโครงสร้างภายในเส้นผม มีสาร Heat Activated Silk PPT ที่จะทำปฏิกริยากับความร้อนที่ได้รับจากไดร์เป่าผม / เครื่องม้วนผม / เครื่องรีดผม แล้วย่อยสลายตนเองจากรูปทรงกลมเปลี่ยนตัวเป็นชั้นเคลือบปกคลุมเส้นผม ช่วยลดความเสียหายจากความร้อนรวมไปถึงการเสียดทานที่ได้รับจากการหวีและเช็ดถูผมแรง ๆ อีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจากเว็บไซต์ cr.https://www.siamtv.com/magazine และ kapook.com

Posted on

3 เคล็ดลับง่ายๆ ป้องกันผมหงอกก่อนวัย!

 “ผมหงอก” หรือ “ผมขาว” เป็นสิ่งปกติที่จะเกิดขึ้นได้เมื่อเรามีอายุที่เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากการทำงานของเม็ดสีเมลานินในเส้นผม มีการทำงานลดลง ในบางคนก็พบผมหงอกครั้งแรกตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ผู้ที่มีปัญหาเรื่องผมหงอกก่อนวัย เกิดความไม่มั่นใจในภาพลักษณ์ของตนเอง หากสาเหตุของการเกิดผมหงอกไม่ได้มาจากกรรมพันธุ์ วันนี้เรามี 3 เคล็ดลับง่ายๆ ที่สามารถช่วยบำรุงเส้นผมให้มีสุขภาพดี เงางาม และชะลอการเกิดผมหงอกมาฝากค่ะ

            

1.รับประทานอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน

ควรเลือกรับประทานอาหารที่ให้คุณค่าทางสารอาหารอย่าง โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี และธาตุเหล็ก เพราะสารอาหารเหล่านี้จะช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้แข็งแรง ชะลอการเกิดผมหงอก ซึ่งสารอาหารเหล่านี้มักพบในอาหารจำพวก ไก่ ไข่ ปลา ถั่ว และธัญพืชต่างๆ เป็นต้น

2.หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่

อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่มักมีโทษต่อสุขภาพโดยตรง อีกหนึ่งผลกระทบที่เกิดจากการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ก็คือ การทำงานของเม็ดสีเมลานินในเส้นผมจะมีการทำงานลดลงเร็วกว่าคนที่ไม่ได้สูบบุหรี่

3.การนอนหลับพักผ่อนและออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการนอนหลับพักผ่อนที่มีประสิทธิภาพ เพราะในขณะที่เรานอนหลับร่างกายจะได้ซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอต่างๆ รวมถึงเส้นผมด้วยเช่นกัน นอกจากนี้การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยผ่อนคลาย ร่างกายไม่ให้เกิดความเครียด อันเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดผมหงอกได้เร็ว

Sakuran Treatment Colour ครีมปิดผมขาว ที่ช่วยบำรุงหนังศีรษะ ไม่ใส่สารเคมีหรือซิลิโคนที่เป็นอันตรายต่อเส้นผม มีส่วนผสม “Sacran” (สารสกัดจากสาหร่าย ทะเลซุยเซนจิโนริ) ที่มีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำ และรักษาความชุ่มชื้นได้มากกว่าไฮยาลูรอนถึง 5 เท่า นอกจากนี้ยังใช้วัตถุดิบจากพืชถึง 85% ช่วยทำให้ผมมีประกาย เงางาม ย้อมปิดผมขาวได้โดยผมไม่เสีย อีกทั้งยังไม่ใส่สารเคมีหรือ ซิลิโคนใดๆที่เป็นอันตรายต่อเส้นผมด้วย

คลิก >>

Posted on

บอกลารังแค! ขจัดรังแคให้หายขาดด้วยวิธีไหนดีนะ

           ผู้หญิงหลาย ๆ คนอาจจะพบเจอปัญหาที่เกี่ยวกับหนังศีรษะ หนึ่งในนั้นก็คือ รังแคนั่นเอง บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่ารังแค คืออะไร ? และทำไมถึงเกิดรังแคได้ทั้ง ๆ ที่เป่าผมแห้งแล้ว วันนี้เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับเจ้ารังแคตัวดี กันค่ะ

รังแค

รังแค คืออะไร ? …

รังแค เป็นอาการทางผิวหนังที่ส่งผลต่อหนังศีรษะ และเส้นผม ทำให้เกิดสะเก็ดสีขาวขึ้น สะเก็ดสีขาวที่เกิดขึ้นนั้นที่จริง คือ เซลล์หนังศีรษะเก่า แต่หลุดลอกเร็วกว่าปกติ หนังศีรษะที่มีสุขภาพดีจะหลุดลอกเซลล์ที่ตายไปแล้ว ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง และจะสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นทดแทนอย่างรวดเร็ว เมื่อกระบวนการนี้เร็วขึ้น หนังศีรษะก็จะผลิตเซลล์ที่ตายแล้วมากขึ้น ทำให้เกิดรังแคนั่นเองค่ะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดรังแค ?

ความเครียด หนังศีรษะมัน อากาศที่เปลี่ยนแปลง หรือการสระผมน้อยเกินไปก็เป็นสาเหตุให้เกิดรังแคได้ หนังศีรษะที่อ่อนแอ หมายถึง หนังศีรษะที่ขาดความชุ่มชื้น และเซลล์อ่อนแอ ตลอดจนมีเชื้อรา Malassezia อาจก่อให้เกิดรังแคได้ (Malassezia คือ เชื้อราที่เติบโตในบริเวณที่มีความมัน เช่น ใบหน้า หลังส่วนบน และหนังศีรษะ)

5 วิธีบอกลารังแค

#1 น้ำมันมะกอก (Olive Oil)

 น้ำมันมะกอกสามารถใช้เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในบริเวณที่หนังศีรษะแห้ง เพื่อป้องกันอาการหนังศีรษะลอก และใช้ชโลมลงบนหนังศีรษะในบริเวณที่มีสะเก็ด การทำเช่นนี้จะทำให้สะเก็ดลอกออกมาเป็นแผ่นเดียวไม่แตกออกเป็นเศษเล็ก ๆ

วิธีการใช้

  • นวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันมะกอกอุ่น ๆ ก่อนนอนทุกคืนแล้วล้างออกด้วยแชมพูสูตรอ่อนโยนในตอนเช้า

ข้อแนะนำ

  • อย่าลืมใส่ผ้าคลุมผม เพื่อป้องกันความมันจากน้ำมันเลอะที่นอน
น้ำมันมะกอก

#2 น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

วิธีการใช้

  • ก่อนอาบน้ำให้นวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันมะพร้าว 3 – 5 ช้อนโต๊ะ ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วจึงสระผมตามปกติ
น้ำมันมะพร้าว

#3 เลม่อน (Lemon)

กรดจากเลม่อนจะช่วยทำให้ค่า pH บนหนังศีรษะสมดุล ซึ่งจะช่วยขจัดรังแคได้ (หากทำเป็นประจำทุกวัน)

วิธีการใช้

  • ใช้น้ำเลม่อน 2 ช้อนโต๊ะ นวดที่หนังศีรษะ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
  • จากนั้นผสมน้ำเลม่อน  1 ช้อนชา กับน้ำเปล่า 1 แก้ว แล้วนำมาชโลมผมอีกครั้งแล้วล้างออก
lemon เลม่อน

#4 ขิง (Ginger)

ขิงมีสาร Anti – Inflammatory ซึ่งเป็นยาแก้อักเสบ และสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ หากผสมขิงกับน้ำมัน เช่นน้ำมันหอมระเหย จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษารังแคได้

วิธีการใช้

  • ปลอกขิงและใช้เครื่องขูด เพื่อทำให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่น้ำมันงา 4 ออนซ์ ลงในถ้วย
  • ใส่ขิงที่บดไว้แล้วในผ้าขาวบาง แล้วคุ้นน้ำขิงออกมาใส่ผสมกับน้ำมันงาให้เข้ากัน
  • นวดหนังศีรษะด้วยน้ำมันที่ผสม ทิ้งไว้สักครู่ แล้วจึงล้างออกด้วยแชมพูที่อ่อนโยน

 

#5 ยาแอสไพริน (Aspirin)

ยาแอสไพรินอยู่ในรูปของยาระงับปวด ยาลดไข้ และยาแก้อักเสบ แอสไพรินมีสารออกฤทธิ์เดียวกับ Salicylic Acid ซึ่งอยู่ในแชมพูขจัดรังแคหลาย ๆ ยี่ห้อ

วิธีการทำ

  • บดยาแอสไพริน 2 เม็ด แล้วผสมกับแชมพูปกติ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที  แล้วสระผมตามปกติ (หากสระเสร็จแล้ว ยังรู้สึกว่ามีผงยาแอสไพรินอยู่บนหนังศีรษะให้สระอีกรอบ)

 

ยาแอสไพริน

          ในปัจจุบันการพัฒนาสูตรยาสระผมมีมากมายที่ผลิตด้วยสมุนไพรธรรมชาติ ออกมาในรูปแบบของ  แชมพู ออแกนิค  หลาย ๆ แบรนด์  ให้ผู้บริโภคได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับหนังศีรษะของตัวเอง เช่น แชมพูที่มีส่วนผสมมะกรูดและอัญชัน แชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าว เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยไม่ต้องเสียเวลาหาวัตถุดิบมาผสมเอง กลับมาดูแลตัวเองกันสักนิดให้ห่างไกลจากสารเคมี หันมาใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือผลิตภัณฑ์ออแกนิค..  แล้วปัญหารังแคจะหมดไป

Tips!

Jamu Lable Scalp Lotion โลชั่นสำหรับบำรุงหนังศีรษะหลังสระผม มีส่วนผสมหลักจาก Aloe Vera ช่วยบำรุงผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหนังศีรษะ ลดอาการแดง คันและหนังศีรษะแห้งลอก

คลิก

Posted on

5 ขั้นตอนดูแลเส้นผม ด้วยผลิตภัณฑ์จาก Bahce

          ร่างกายของเราต้องการการพักผ่อนที่เพียงพอในแต่ละวัน เพื่อสุขภาพที่ดี เส้นผมเองก็ต้องการการดูแลในตอนกลางคืนเช่นกัน แม้ว่าจะไม่มีผลิตภัณฑ์สำหรับการดูแลผมในเวลากลางคืนโดยเฉพาะ เพื่อให้เส้นผมของสาวๆอย่างเรามีสุขภาพดีในทุกเรามีวิธีการดูแลเส้นผมในเวลากลางคืนมาแนะนำกันค่ะ

1.ทำความสะอาดเส้นผม

เส้นผมเราต้องเจอทั้งแสงแดดและมลภาวะมาทั้งวัน สำหรับสาวๆ บางคนยังใช้ผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมอีกด้วย การที่เราจะนอนโดยที่มีสิ่งเหล่านี้สะสมอยู่บนเส้นผมและศรีษะของเรา คงจะไม่ดีนักเพราะเป็นการสะสมเชื้อโรค อาจทำให้เกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ เช่น รังแค ผมร่วง หรือเส้นมีกลิ่นเหม็นอับ

 

      ขั้นตอนแรกที่ควรทำก่อนเข้านอนคือสระผมให้สะอาดหมดจด และบำรุงต่อด้วยทรีทเม้นท์ สำหรับสาวๆ คนไหนที่อยากให้เส้นผมได้รับการดูแลอย่างเป็นธรรมชาติ แนะนำให้ใช้ Bahce Laste Shampoo   แชมพูบำรุงเส้นผมที่ช่วยทำความสะอาด พร้อมบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะอย่างล้ำลึก ไม่ผสมซิลิโคน ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติมีส่วนผสมของสารโพลิฟินอล หรือสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยคงความอ่อนเยาว์ของเส้นผม ช่วยให้ผมเเข็งเเรงเงางาม

ใช้แชมพูทำความสะอาดเส้นผมกันไปแล้วก็อย่าลืมที่จะใช้ทรีทเม้นท์ Bahce Luste Treatment ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาประสิทธิภาพของ Luste Shampoo ซึ่งใช้สูตรผสมเช่นเดียวกับแชมพู จึงช่วยให้สามารถส่งเสริมและรักษาประสิทธิภาพของแชมพูได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารจากธรรมชาติที่ไม่ได้มีในแชมพูที่จำเป็นต่อเส้นผมอีกด้วย เพื่อให้ผมนุ่มสลวย ไม่พันกันนะคะ

2.เป่าผมให้แห้ง

เมื่อสระผมและบำรุงเส้นผมกันไปแล้วก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนการเป่าผมให้แห้ง เพราะถ้าสาวๆคนไหนไม่เป่าผมให้แห้งละก็ อาจต้องพบกับปัญหารังแค และอาการคันหนังศรีษะอย่างแน่นอน วันนี้เราเคล็ดลับมาบอกกันค่ะ นั่นก็คือเช็ดผมให้แห้งก่อนประมาณ 80% แล้วจึงใช้ไดร์เป่าผม แต่ต้องใช้ลมเย็นเป่านะจ้ะ แต่ถ้าสาวๆคนไหนไม่สะดวกใช้ไดร์ก็พัดลมเลยจ้า ที่บอกว่าให้ใช้ลมเย็นก็เพราะว่า ลมเย็นจะช่วยถนอมเส้นผม ช่วยปิดเกล็ดผมชั้นนอก และล็อคเก็บความเงางามไว้ในเส้นผมที่นุ่มสลวยของสาวๆได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากใช้ลมร้อนจะเป็นการทำให้เส้นผมสูญเสียความชุ่มชื้น และทำให้ผมแห้งได้อีกด้วย

3. บำรุงต่อด้วยน้ำมันบำรุงเส้นผม

ผมขาดหลุดล่วงเพราะเกิดการเสียดสีขณะสระผม หวีผม ทำให้ชี้ฟู คงจะกวนใจสาวๆไม่ใช่น้อยเลยใช่มั้ยคะ แนะนำให้ใช้น้ำมันบำรุงผมที่ผลิตจากธรรมชาติอย่าง Bahce Luste Oil ที่มีส่วนช่วยดูแลรักษาเส้นผมและป้องกันเส้นผมจากรังสีอัลตราไวโอเลตและการแห้งเสีย ช่วยให้เส้นผมเงางามอย่างธรรมชาติ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ Bahce Series ยังได้ใช้วัตถุดิบที่มีกลิ่นหอมพิเศษจึงทำให้คุณสัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจากเส้นผมซึ่งจะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีแม้กระทั่งในการใช้ชีวิตประจำวัน

4.หวีผมเบาๆ ด้วยแปรงที่เหมาะสมกับเส้นผม

การหวีผม หรือแปรงผมก่อนนอน เป็นการกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ช่วยให้หนังศรีษะมีสุขภาพดี ที่สำคัญขณะนอนหลับเส้นผมของสาวๆจะเรียงตัวสวย ไม่ยุ่งเหยิง เมื่อตื่นขึ้นมาในตอนเช้า

วิธีการหวีผมที่ถูกต้อง เริ่มเริ่มจากการที่หวีให้เหมาะสมกับสภาพเส้นผมก่อนจากนั้นจึงหวีอย่างเบามือ โดยแบ่งผมออกเป็นส่วน แล้วจึงค่อยๆ หวีผมลงมาทีละส่วนจนทั่วทั้งศรีษะ และอย่างหวีแรงมากเกินไปเพราะอาจทำให้เส้นผมได้รับความเสียหาย ขาดหลุดล่วง และเป็นการทำร้ายรากผมด้วย

5.ปล่อยผม หรือ มัดผมหลวมๆ

เวลานอนเราควรจะปล่อยผมสบายๆ เพื่อให้เส้นผมได้หายใจและผ่อนคลายบ้าง แต่ถ้ากลัวการปล่อยผมแล้วเสียดสีกับหมอน และทำผมให้ผมชี้ฟู จึงแนะนำให้ใช้ปลอกหมอนผ้าไหมแทนเพื่อลดการเสียดสี หรือถ้าอยากมัดผมนอนจริงๆ  แนะนำให้มัดผมแบบหลวมๆ ก็พอเพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เส้นผมพันกันระหว่างนอนได้

เพียง 5 ขั้นตอนนี้ก็จะทำให้สาวๆ มีเส้นผมที่สวยสุขภาพดีกันไปตลอด อย่าลืมทำตามกันนะจ้ะ

Posted on

5 สมุนไพร ช่วยลดปัญหาผมขาดหลุดร่วงด้วยธรรมชาติ !

Damage hair

คุณเคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหม ? ผมบาง ทำผมทรงไหนก็ไม่สวย เห็นแสกผมชัดเจนเกินไป ถ้าปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นกับเพื่อน ๆ เราเชื่อว่าทุกคนคงเครียด และวิตกกังวล แถมหมดความมั่นใจในตัวเอง แน่นอนการมีผมที่หนา เงางาม นุ่มสลวยสุขภาพดี เป็นสิ่งที่สาว ๆ ทุกคนต้องการ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมีเส้นผมที่สุขภาพดีอยู่เต็มศีรษะ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับปัญหาผมร่วง ยิ่งถ้าเห็นเส้นผมที่ร่วงติดมากับหวีหรือร่วงตามพื้นก็จะยิ่งจิตตก วันนี้เรามี สมุนไพร ที่จะแก้ปัญหาผมขาดหลุดร่วงด้วยธรรมชาติมาฝากค่ะ

ดอกอัญชัน มีสรรพคุณช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตบริเวณหนังศีรษะ เส้นผม และรากผม ลดการหลุดร่วง และช่วยกระตุ้นให้เส้นผมใหม่งอกเร็วขึ้น ช่วยให้เส้นผมดกดำ เงางาม มีน้ำหนักมากขึ้น

Tips ! นำดอกอัญชันประมาณ  1 กำมือมาตำให้ละเอียด ผสมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อยคนให้เข้ากัน นำมาชโลมให้ทั่วเส้นผมและหนังศีรษะ นวดเบา ๆ แล้วหมักทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที และสระผมตามปกติ

ดอกอัญชัญ

ว่านหางจระเข้ น้ำวุ้นใส ๆ ในว่านหางจระเข้สามารถบำรุงเส้นผมที่เสียไปแล้วให้กลับมาเหมือนเดิม และยังช่วยให้หนังศีรษะ และรากผมแข็งแรง ทำให้ผมหลุดร่วงน้อยลง ผมไม่แตกปลาย และช่วยลดไขมันที่หนังศีรษะ นอกจากนี้ยังช่วยรักษาแผลบนหนังศีรษะได้ด้วย

Tips ! นำว่านหางจระเข้ประมาณ 3 – 4 ใบมาปลอกเปลือกออกให้เหลือแต่วุ้นใส ๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด นำวุ้นที่ได้มาบดให้ละเอียด แล้วนำมาชโลมให้ทั่วหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วสระออกด้วยน้ำสะอาด

ว่านหางจรเข้

ผลมะกรูด ได้ชื่อว่าเป็นสมุนไพรแห่งการบำรุงผม นอกจากจะช่วยลดอาการผมร่วงแล้ว ยังช่วยไม่ให้ผมแตกปลาย และทำให้เส้นผมดำเงางาม ช่วยขจัดรังแคที่ทำให้คันหนังศีรษะอีกด้วย

Tips ! นำมะกรูดสดประมาณ 4 – 5 ลูก มาต้มในน้ำร้อนจนนิ่ม นำมาห่อด้วยผ้าขาวบางแล้วคั้นเอาแต่น้ำ นำน้ำมะกรูดที่ได้มาชโลมให้ทั่วเส้นผม และหนังศีรษะ หมักทิ้งไว้ประมาณ นาที แล้วสระผมตามปกติ *ควรทำสัปดาห์ละ 1 – 2 ครั้ง ผมจะค่อย ๆ แข็งแรงขึ้น และผมร่วงน้อยลง

มะกรูด

 ขิง ในขิงมีน้ำมันที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณรากผมและหนังศีรษะ ทำให้สารอาหารไปเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น ช่วยกระตุ้นการงอกของเส้นผม แถมยังสามารถฆ่าเชื้อรา และแบคทีเรียที่รากผมได้อีกด้วย

Tips ! นำขิงแก่ แง่ง ไปอังไฟให้อุ่นจัดในระดับที่ยังสามารถใช้มือจับได้ จากนั้นตำให้ละเอียด เสร็จแล้วห่อด้วยผ้าขาวบางทำเป็นลูกประคบ นำมาประคบให้ทั่วโคนผม ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที แล้วสระผมให้สะอาด

ขิง

กระเทียม ในกระเทียมอุดมไปด้วยกำมะถันที่มีส่วนช่วยเพิ่มอัตราการผลิตคอลลาเจน ส่งผลให้เส้นผมเติบโตอย่างรวดเร็วแข็งแรง และสุขภาพดี

Tips ! ชโลมกระเทียมสดให้ทั่วหนังศีรษะ ทิ้งไว้ประมาณ 10 – 15 นาที แล้วสระผมตามปกติ

กระเทียม

ทั้งหมดนี้ เป็นวิธีการลดผมขาดหลุดร่วงจากสมุนไพรธรรมชาติที่หาได้ง่าย ๆ รอบบ้าน นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากส่วนผสมของสมุนไพรเหล่านี้ที่อยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป เช่น แชมพู ออแกนิค” หรือ แชมพู ธรรมชาติ” ที่หาซื้อได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เพื่อน ๆ ได้เลือกใช้กันค่ะ